ซานเตียโก รามอน อี กาฮาล (สเปน: Santiago Ram?n y Cajal) ForMemRS (ภาษาสเปน: [san?tja?o ra?mon i ka?xal]; 1 พฤษภาคม 2395 – 18 ตุลาคม 2477) เป็นแพทย์ อาจารย์ พยาธิแพทย์ นักมิญชวิทยาและนักประสาทวิทยาศาสตร์ชาวสเปน ได้รับรางวัลรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในปี ค.ศ.1906 (พ.ศ. 2449) จากการศึกษาระบบประสาทด้วยการย้อมสี เป็นบุตรของ คุสโต รามอน กาซาซุส กับอันโตเนีย กาฮาล
การสำรวจรุ่นบุกเบิกของเขาเกี่ยวกับโครงสร้างจุลทรรศน์ของสมอง เป็นงานต้นฉบับในประสาทวิทยาศาสตร์ จึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นบิดาของประสาทวิทยาศาสตร์ เขามีความชำนาญในการวาดรูปและภาพวาดเซลล์สมองเป็นร้อย ๆ ของเขาก็ยังถูกใช้ในการศึกษาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
ซานเตียโกมีชีวิตวัยเด็กที่ต้องย้ายที่อยู่บ่อยเนื่องจากต้องติดตามบิดาที่เป็นศัลยแพทย์ เริ่มเข้าเรียนประถมศึกษาในโรงเรียนของคณะเยซูอิตที่คากา และเรียนมัธยมศึกษาที่ออสกา เขาจบมัธยมศึกษาในปีเดียวกับที่ประเทศสเปนประกาศเป็นสาธารณรัฐครั้งที่หนึ่ง เข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยซาราโกซา เมืองหลวงของแคว้นอารากอน ซึ่งครอบครัวทั้งหมดของเขาก็ย้ายไปอยู่ที่นั่นด้วยในปี ค.ศ. 1870 จบการศึกษาอย่างรวดเร็วในปี ค.ศ.1873 ปี ค.ศ. 1874 สมัครไปเป็นแพทย์ทหารที่คิวบา และเขาติดโรคมาลาเรียและโรคบิดที่นั่น เขาถูกส่งตัวถึงสเปนในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1875
ก่อนจะถึง ค.ศ. 1876 เขาซื้อกล้องจุลทรรศน์ตัวแรก ค.ศ. 1876 ได้เป็นแพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลแม่พระแห่งพระหรรษทาน ที่เมืองซาราโกซา ค.ศ. 1878 เขาป่วยเป็นวัณโรค ค.ศ. 1879 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์แห่งซาราโกซา 19 กรกฎาคมของปีเดียวกันแต่งงานกับ ซิลเบรีอา ฟาญานญาส การ์ซีอา มีบุตรธิดา 7 คน ค.ศ. 1883 เป็นอาจารย์สาขาการอธิบายกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบาเลนเซีย ซึ่งเขามีโอกาสศึกษาอหิวาตกโรคที่นี่ ค.ศ. 1887 ย้ายไปสอนสาขามิญชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา
ค.ศ. 1892 ย้ายไปทำงานในสาขาวิชามิชญวิทยา มิชญวิทยาเคมีพื้นฐานและพยาธิกายวิภาคศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยกลางแห่งมาดริด ค.ศ. 1902 สามารถทำให้รัฐบาลสร้างห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาใหม่ ซึ่งเขาทำงานที่นั่นถึง ค.ศ.1922 หลังจากนั้นเขาย้ายไปทำวิจัยที่สถาบันรามอน อีกาฆาลจนเสียชีวิต
ค.ศ. 1888 ตอนที่เขาอยู่ที่บาร์เซโลนา ได้ใช้เทคนิกการย้อมสีตามแบบของกามิลโล โกลจิ และค้นพบการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทในสารสีเทา ระบบประสาทของสมองและกระดูกสันหลัง ซึ่งทฤษฎีนี้ถูกนำเสนอที่ สถาบันกายวิภาคศาสตร์เยอรมันใน ค.ศ. 1889 ซึ่งให้คำอธิบายเกี่ยวกับกระแสประสาท ในปี ค.ศ. 1906 เขาและนักวิทยาศาสตร์อิตาลี กามิลโล โกลจิ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือแพทยศาสตร์ จากการศึกษาระบบประสาท
รามอน อี คาฮาลพิมพ์เผยแพร่งานและบทความทางวิทยาศาสตร์ มากกว่า 100 ผลงานในภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปนและภาษาเยอรมัน ที่โด่งดังมากที่สุดก็คือ "กฎเกณฑ์และคำแนะนำสำหรับการสืบสวนทางวิทยาศาสตร์", "มิญชวิทยา (วิทยาเนื้อเยื่อ)", "ความเสื่อมและการเจริญทดแทนของระบบประสาท", "คู่มือเทคนิคมาตรฐานในวิทยาเนื้อเยื่อและไมโครกราฟ", "องค์ประกอบต่าง ๆ ของวิทยาเนื้อเยื่อ", "คู่มือพยาธิวิทยาทั่วไป", "ข้อคิดใหม่ ๆ ในกายวิภาคแบบละเอียดของศูนย์ประสาท", "ตำราระบบประสาทของมนุษย์และสัตว์มีกระดูกสันหลัง", "เรตินาของสัตว์มีกระดูกสันหลัง"
ในปี พ.ศ. 2448 เขาตีพิมพ์หนังสือนวนิยายวิทยาศาสตร์ "เรื่องต่าง ๆ ในเวลาหยุดงาน" ภายใต้นามปากกา "ดร. แบคทีเรีย"
โครงสร้างของเรตินาในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จาก "Structure of the Mammalian Retina (โครงสร้างของเรตินาในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม)" Madrid, 1900.
รูปวาด Purkinje cells (A) และ เซลล์ประสาทเล็ก (B) ในซีรีเบลลัมของนกพิราบ โดย ซานเตียโก รามอน อี คาฮาล, 2442. Instituto Santiago Ram?n y Cajal, Madrid, Spain.
วาดในปี 2442, มาจากหนังสือ "Comparative study of the sensory areas of the human cortex (การศึกษาเปรียบเทียบของเขตรับรู้ความรู้สึกในคอร์เทกซ์ของมนุษย์)"
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/ซานเตียโก_รามอน_อี_กาฮาล